ปาล์มน้ำมัน

[ปาล์มน้ำมัน][bsummary]

ยางพารา

[ยางพารา][bsummary]

เทคนิคจากสวน

[เทคนิคจากสวน][twocolumns]

NEWS

[News][bleft]

ตลาดกลางยางพาราระดับภูมิภาค (RRM) ซื้อขายยางจริง ผู้ผลิต “มีอำนาจ” กำหนดราคา


เรื่องน่าภาคภูมิใจ ของคนไทยคือ ไทยเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออก “ยางธรรมชาติ” มากที่สุดของโลก
ในขณะเดียวกันก็น่าหดหู่อย่างยิ่ง เพราะเรา “ไร้อำนาจ” ต่อรองทางการตลาดกับผู้ซื้อยางจากต่างประเทศ

สถานการณ์การซื้อขายยางตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พบว่า ราคายางในประเทศ “ถูกชี้นำ” จากราคายางในตลาดซื้อขายล่วงหน้า เช่น ตลาดล่วงหน้าโตเกียว (TOCOM) ของญี่ปุ่น ตลาดล่วงหน้าของสิงคโปร์ (SICOM) และตลาดเซี่ยงไฮ้ของจีน ทุกตลาดเป็นตลาดเก็งกำไร...!!!

เนื่องจากมีปริมาณการส่งมอบยางจริงมีน้อย ไม่สะท้อนกลไกราคาที่เกิดจากผลผลิตและความต้องการใช้ที่แท้จริง ส่งผลให้ราคาเกิดความผันผวน และบางครั้งราคาลดลงต่ำกว่าต้นทุนการผลิต

จากการประชุมสภาไตรภาคียางระหว่างประเทศ (International Tripartite Rubber Council: ITRC ) จึงเห็นชอบให้จัดตั้งตลาดกลางยางพาราระดับภูมิภาค (Regional Rubber Market : RRM) ขึ้น โดยได้เปิดดำเนินการพร้อมกัน 3 ประเทศ ในวันที่ 2 กันยายน 2559 เพื่อสร้างกลไกราคาที่สะท้อนภาวะตลาดที่แท้จริง และเพิ่มความเข้มแข็งให้กับตลาดยางของประเทศผู้ผลิตยาง 3 ประเทศ

ตลอดจนสามารถใช้อ้างอิงการซื้อขายในระดับสากล ทดแทนตลาดล่วงหน้าต่างประเทศ และสร้างเสถียรภาพด้านราคายาง

advertivsing
ลงโฆษณา โทร 08-6335-2703



👉 รูปแบบของตลาดกลางยางพาราระดับภูมิภาค

ตลาดกลางยางพาราระดับภูมิภาค เป็นตลาดกลางซื้อขายยางธรรมชาติล่วงหน้าแบบส่งมอบจริง โดย
ผู้ซื้อจะได้รับมอบยาง 30 วันนับจากวันทำสัญญา สินค้าที่ซื้อขายผ่านตลาดมี 2 ชนิด คือยางแท่ง STR 20 และยางแผ่นรมควัน RSS 3

ผู้ซื้อ เป็นผู้ประกอบการส่งออก ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ เทรดเดอร์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผู้ขาย เป็นโรงงานผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน ได้รับการรับรองอยู่ใน SICOM Approved Factory List หรือ โรงงานที่มีมาตรฐาน GMP และได้รับการรับรองจากคณะกรรมการ Selection Committee ซึ่งเป็นคณะกรรมการร่วม 3 ประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระบบคุณภาพให้แก่ผู้ใช้ยางทั่วโลก

รูปแบบการซื้อขายยางเป็นแบบ Auto matching continuous system เป็นรูปแบบการซื้อขายยางที่มี
มาตรฐานในระดับสากล โดยผู้ซื้อ/ผู้ขายเสนอคำสั่งซื้อ คำสั่งขาย ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต



👉 ผลดีของตลาดกลางยางพาราระดับภูมิภาคต่อตลาดยางของไทย

รูปแบบการซื้อขายยางในปัจจุบันมีการซื้อขายในรูปแบบของตลาด Spot และ ตลาด Future การซื้อ
ขายแบบ Spot จะเป็นการผลิตก่อนแล้วจึงกำหนดราคาขาย จึงทำให้การวางแผนการผลิตกับความต้องการใช้ยางในบางครั้งไม่สอดคล้องกัน ส่งผลให้ราคายางผันผวน และเกิดปัญหาในการบริหารจัดการสต็อกยาง

ในขณะที่ตลาด Future จะเป็นการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ มีการถือสัญญาจนถึงกำหนดส่งมอบจริงน้อย และเป็นตลาดของนักเก็งกำไรมากกว่าผู้ประกันความเสี่ยง

ดังนั้น การจัดตั้งตลาดกลางระดับภูมิภาคเพื่อให้ตลาดกลางยางของโลกอยู่ในประเทศผู้ผลิตยาง โดยใช้รูปแบบการซื้อขายแบบ Forward มีการตกลงราคากันล่วงหน้าแล้วส่งมอบจริง 100% ใน 30 วัน สินค้า
ที่ผ่านตลาดมีการรับรองคุณภาพ สอดรับกับนโยบายการพัฒนามาตรฐานการผลิตยางของสถาบันเกษตรกรสู่ระบบการจัดการคุณภาพที่ดี หรือ GMP ของการยางแห่งประเทศไทย

จึงเป็นกลไกให้เกษตรกร สถาบันเกษตรกรยกระดับคุณภาพสินค้าสู่มาตรฐานการส่งออก สามารถ
วางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ช่วยลดต้นทุน และเป็นช่องทางในการประกัน
ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา และทำให้ระบบตลาดเกิดความเข้มแข็ง เกษตรกรเกิดความมั่นคงใน
อาชีพการทำสวนยาง



👉 ผลของตลาดกลางยางพาราระดับภูมิภาคต่อการกำหนดราคาอ้างอิงของยางไทย

ปัจจุบันการกำหนดราคาซื้อขายยางแต่ละวันยังคงอ้างอิงราคาจากตลาดล่วงหน้า ทั้งตลาด TOCOM
ตลาด SICOM และตลาดเซี่ยงไฮ้ ผู้ที่เข้าไปซื้อขายในตลาดล่วงหน้ามีทั้งผู้ประกันความเสี่ยงและนักเก็งกำไร ซึ่งมีการส่งมอบสินค้าจริงไม่เกิน 5%

ขณะที่ตลาดกลางระดับภูมิภาค กำหนดให้ทุกสัญญาที่เกิดขึ้น ต้องส่งมอบและรับมอบสินค้าจริง 100% ภายใน 30 วัน ทำให้ราคาที่เกิดขึ้นในตลาดเกิดจากความต้องการยางที่แท้จริงของผู้ซื้อ และอยู่บนพื้นฐานการคำนวณต้นทุนของผู้ขาย หากมีการใช้ราคายางของตลาดกลางระดับภูมิภาค ให้สามารถชี้นำราคาซื้อขายยางในตลาดโลก คาดว่าจะช่วยให้ราคายางมีเสถียรภาพมากขึ้น

เรื่อง : อธิวีณ์ แดงกนิษฐ์ กองวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจยาง ฝ่ายวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจยาง การยางแห่งประเทศไทย

advertivsing
สนใจลงโฆษณา โทร 08-6335-2703

ไม่มีความคิดเห็น:

บทความที่ได้รับความนิยม