การยางแห่งประเทศไทย
และสมาคมธุรกิจไม้ยางพาราไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการบริหารจัดการไม้ยางพาราของการยางแห่งประเทศไทย
ณ การยางแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่ กรุงเทพฯ
กยท.ให้ความสำคัญในการสร้างมาตรฐานการซื้อขายไม้ยางในราคาที่เหมาะสม
และเป็นธรรมทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ในแต่ละปีจะมีเกษตรกรชาวสวนยางจะต้องโค่นยาง
เพื่อดำเนินการปลูกใหม่อาจปลูกแทนด้วยยางพารา หรือไม้เศรษฐกิจอื่นหลายราย
ซึ่ง กยท. ได้กำหนดเป้าหมายการโค่นยางปีละกว่า 400 ,000 ไร่ เพื่อให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพในการนำไปแปรรูปในอุตสาหกรรมต่างๆ
ต่อไป รวมทั้ง เป็นการบริหารจัดการอุปสงค์ อุปทานของยางพาราในระบบด้วย
ยางพาราจึงเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญมากเพราะไม่ใช่เพียงจะสร้างรายได้ให้เกษตรกรขณะปลูกเท่านั้น
แต่ยังสามารถสร้างรายได้ในการโค่นไม้ยางได้อีกด้วย
ดร.ธีธัช
สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย
เผยว่า โครงการบริหารจัดการไม้ยางพาราของการยางแห่งประเทศไทย
จึงเป็นโครงการที่สำคัญ จะช่วยให้เกษตรกรชาวสวนยาง สามารถขายไม้ยางพาราได้ในราคาที่เหมาะสมและยุติธรรม
เพราะที่ผ่านมาเกษตรกรชาวสวนยางที่ต้องโค่นยาง เพื่อดำเนินการปลูกแทนใหม่จะประสบกับปัญหาการขายไม้ยางเป็นอย่างมาก
ทั้งการผูกขาดจากผู้ประกอบการที่รับซื้อไม้ยาง ซึ่งมีไม่กี่ราย การถูกกดราคา
การรับซื้อแต่ไม่หมดทุกส่วน เป็นต้น
ทั้งนี้ไม้ยางพาราเป็นไม้ที่ถูกต้องตามกฎหมายในการนำไปแปรรูป
และส่งออก สามารถเพิ่มรายได้ให้กับชาวสวนยาง รวมถึงผู้ประกอบกิจการโรงไม้ต่างๆ
ได้
ความร่วมมือระหว่าง กยท. และสมาคมธุรกิจไม้ยางพาราไทย
จะเป็นสองหน่วยงานหลักที่ร่วมกันสนับสนุนทรัพยากรที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการโครงการบริหารจัดการไม้ยางพาราเพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางสามารถขายไม้ยางพาราได้ในราคาที่เป็นธรรมและเหมาะสม
เป็นการร่วมพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมไม้ยางพาราแบบครบวงจร
จะสามารถสร้างผลประโยชน์สูงสุดต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเกษตรกรชาวสวนยาง
การยางแห่งประเทศไทย และผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมไม้ยางพาราด้วย
กยท. พร้อมสนับสนุน ส่งเสริม
ให้เกษตรกรรับรู้ข้อมูลและประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการ
และเป็นหน่วยงานที่รับสมัครเกษตรกรและผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมไม้ยางพาราที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ
ตลอดจน สนับสนุนข้อมูลพื้นฐานของเกษตรกร ข้อมูลสวนยางพาราที่ประสงค์จะโค่นเพื่อปลูกแทน
ตลอดจนข้อมูลอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์โดยความยินยอมของเกษตรกรที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ
นายนิกร ลิขิตหวังพาณิชย์ นายกสมาคมธุรกิจไม้ยางพาราไทย
กล่าวว่า การร่วมมือกันระหว่าง กยท. และสมาคมธุรกิจไม้ยางพาราไทย จะเป็นประโยชน์ต่อภาคเกษตรกร
ช่วยให้เกษตรกรได้รับทราบว่าสินค้าของตนขายได้ในราคาเท่าไร
โดยไม่ต้องผ่านตัวแทนหรือคนกลางที่จะเข้ามากดราคาแล้ว
ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมก็สามารถทราบต้นทุนราคาวัตถุดิบ
และปริมาณวัตถุดิบที่แน่นอนในการผลิต ลดปัญหาคนกลางที่เข้ามาปั่นราคาขึ้นลงได้
เพราะนอกจากอุตสาหกรรมไม้ยางแล้ว ยังมีอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนนำไม้ยางไปแปรรูปเป็นวู้ด
พาเลท เป็นพลังงานเชื้อเพลิงซึ่งเป็นที่ต้องการมากในตลาดโลก
จะส่งผลให้ไม้ยางพาราเป็นผลผลิตที่สามารถเพิ่มรายได้ให้กับประเทศชาติอย่างมหาศาล
ทั้งนี้ องค์ความรู้ที่ กยท.
ได้คิดสูตรในการคำนวณต้นทุนการผลิตจากนักวิชาการซึ่งถือได้ว่ามีความแม่นยำมากอยู่แล้ว
ถือได้ว่างานนี้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ กยท. ที่เป็นประโยชน์อย่างสูงต่อธุรกิจอุตสาหกรรมไม้ยางพาราทั้งระบบ
advertivsing
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น