ปาล์มน้ำมัน

[ปาล์มน้ำมัน][bsummary]

ยางพารา

[ยางพารา][bsummary]

เทคนิคจากสวน

[เทคนิคจากสวน][twocolumns]

NEWS

[News][bleft]

ลุงจรูญ ประดับการ ปลูก “หญ้าข่มคา” ในสวนปาล์ม ดินดี ผลผลิตสูง

เกษตรกรจำนวนมากนิยมตัดหญ้าในสวนให้สั้นเป็นประจำ เพราะเข้าใจว่าหญ้าจะชิงปุ๋ยของพืช แต่ผลวิเคราะห์จากห้องแล็บหญ้าจะกินเฉพาะธาตุไนโตรเจนเท่านั้น แสดงว่าธาตุอาหารตัวอื่นหญ้าไม่ได้กิน มีเฉพาะ “ขี้ไส้เดือน” ก็เป็นอาหารอย่างเพียงพอของหญ้าแล้ว

แต่ประโยชน์ที่ได้จากการปลูกหญ้ามีประโยชน์มากกว่า โทษ โดยเฉพาะ “หญ้าข่มคา”

ประโยชน์ของหญ้าข่มคา มีดังนี้

1. เพิ่มปริมาณไส้เดือน (Earthworm) ให้มากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งทีไส้เดือนมากช่องว่างในดินมีมาก อากาศถ่ายเทได้สะดวก รากพืชหายใจได้ดีและแตกขยายได้เร็ว ขี้ไส้เดือนเป็นอาหารที่ดีของหญ้าและพืชที่เราปลูก

2. ช่วยรักษาความชื้น (Moisture) ในดินได้มากกว่าหญ้าชนิดอื่นเพราะแสงแดดส่องไม่ถึงพื้นดิน หญ้าแห้งบริเวณพื้นดินก็เป็นอินทรียวัตถุชั้นดี ปาล์มน้ำมันเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก ในช่วงหน้าฝนที่ฝนแล้งเป็นเวลานาน และในช่วงหน้าแล้งดินก็ยังเก็บความชื้นไว้ได้มาก ทำให้ทะลายปาล์มมีน้ำหนักมากเป็นพิเศษ

3. ป้องกันการชะล้างหน้าดิน (Soil erosion) สวนที่ฉีดยาฆ่าหญ้าและตัดหญ้าให้สั้นเป็นประจำไส้เดือนจะค่อยๆ หนีไปเรื่อยๆ เพราะดินร้อนอยู่ไม่ได้ เวลาฝนตกหนัก น้ำฝนจะชะล้างหน้าดินพร้อมกับธาตุอาหารไปสู่แม่น้ำลำคลองโดยไม่รู้ตัว แต่หญ้าชนิดนี้นอกจากป้องกันการชะล้างแล้วยังเก็บดินตะกอนที่มากับน้ำท่วมได้เป็นอย่างดีด้วย

4. เป็นการเพิ่มจุลินทรีย์ (Micro organisms) ที่มีประโยชน์กับดิน พืช และระบบนิเวศ การใส่ปุ๋ยเคมี หรือชีวภาพ พืชจะกินปุ๋ยไม่ได้ถ้าไม่มีจุลินทรีย์ย่อยสลายปุ๋ยตามกระบวนการของธรรมชาติ 
สวนปาล์มปกคลุมไปด้วยหญ้าข่มคา
ลุงจรูญ ประดับการ ปราชญ์สวนยาง จ.ชุมพร
เกษตรกรจำนวนมากนิยมตัดหญ้าในสวนให้สั้นเป็นประจำ เพราะเข้าใจว่าหญ้าจะชิงปุ๋ยของพืช มีข้อถกเถียงกันมากในหมู่เกษตรกรที่คิดแบบนี้

ผู้เขียนได้ทราบข้อมูลอย่างชัดเจนจากหัวหน้าห้องแล็บของ บริษัทวิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์  ว่า หญ้าจะกินอาหารเฉพาะ “ธาตุไนโตรเจน” เท่านั้น หลังจากได้นำใบหญ้าที่สมบูรณ์ดีมาอบให้แห้งและบดละเอียดแล้วมาทำการวิเคราะห์เพื่อหาธาตุอาหารที่สะสมอยู่ในใบหญ้า ผลวิเคราะห์ปรากฏว่ามีเฉพาะธาตุไนโตรเจนเท่านั้น แสดงว่าธาตุอาหารตัวอื่นหญ้าไม่ได้กิน เฉพาะ “ขี้ไส้เดือน” ก็เป็นอาหารอย่างเพียงพอของหญ้าแล้ว

เมื่อเดือนกรกฎาคม 2558 คณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ได้นำนักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ปีที่ 4 จำนวน 5 คน มาทำการวิจัยเรื่องคุณสมบัติและประโยชน์ของ “หญ้าข่มคา” ในสวนของผู้เขียน ทั้ง 2 แปลง และในเดือนมีนาคม 2559 ได้นำนักศึกษาเหล่านั้นพร้อมผู้นำ อบต. และ อบจ. ของจังหวัดนราธิวาส จำนวน 45 คน มาดูการบริหารจัดการสวน และฟังบรรยายจากผู้เขียน พร้อมมอบผลการวิจัยให้ 1 ชุด

ผลการวิจัยพบว่า รากหญ้าข่มคาสามารถหยั่งลึกลงไปในดินถึง 1 เมตรในดินร่วน ส่วนหญ้าคาลึกลงไปแค่ 40 เซนติเมตร ขังให้น้ำท่วมครึ่งต้นทั้ง 2 อย่าง เป็นเวลา 1 เดือน หญ้าคาตายสนิท ส่วนหญ้าข่มคาไม่ตายพอเปิดน้ำให้แห้งค่อยๆ เจริญเติบโตเป็นปกติ ผลของการวิจัยช่างตรงกับที่ผู้เขียนคิดไว้ทั้ง 4 ข้อ โดยผู้เขียนไม่มีความรู้เรื่องงานวิจัย แต่รู้จากประสบการณ์ทั้งสิ้น
ปลูกหญ้าข่มคาทั่วทั้งสวน ตัดเฉพาะรอบโคนต้นปาล์มเ่ท่านั้น
ทางใบปาล์ม ย่อยกลายเป็นอินทรียวัตถุ 
ปลูกหญ้าข่มคน เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งเสริมให้สวนปาล์มของลุงจรูญมีผลผลิตสูง 4-5 ตัน/ไร่/ปี
อีกกรณีหนึ่งสำหรับเรื่องไส้เดือน เมื่อ 50 ปีที่แล้วมีผู้ทำการวิจัยเพื่อหาปริมาณของขี้ไส้เดือนในพื้นที่นาร้าง 1 ไร่ เก็บขี้ไส้เดือนทุก 15 วัน ในพื้นที่ 1 ตารางวา (พื้นที่นาร้างส่วนใหญ่เป็นดินเหนียวไม่ค่อยมีอินทรียวัตถุและธาตุอาหาร) เป็นเวลา 1 ปี คำนวณปริมาณขี้ไส้เดือนโดยเฉลี่ยแล้วพื้นที่นาร้าง 1 ไร่ ในเวลา 1 ปี จะมีขี้ไส้เดือนประมาณ 2.5 ตัน

แต่ถ้าเป็นพื้นที่ดินในสวนจะมีอินทรียวัตถุจากปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ และทางใบปาล์มในปริมาณมาก ถ้าเราไว้หญ้าให้ยาวน่าจะมีปริมาณขี้ไส้เดือนมากกว่าถึง 2 เท่า คือ ปริมาณ 5 ตัน/ไร่ โดยไม่ต้องลงทุนซื้อ

แต่อย่างไรก็ตามผู้เขียนไม่สามารถหาข้อมูลมายืนยันได้เพราะระยะเวลานานเกินไป

สรุปว่าการไว้หญ้าในสวนจะมีประโยชน์ต่อพืชมากมายหลายประการ การตัดหญ้าให้สั้นเป็นประจำ จะเป็นการสมควรหรือไม่ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของเกษตรกรเอง

ข้อมูลจาก : การบริหารจัดการสวนปาล์ม ที่ใช้ต้นทุนต่ำ ผลผลิตสูง จรูญ ประดับการ
ขอขอบคุณ
จรูญ ประดับการ 
โทร. 086-986-2340


ไม่มีความคิดเห็น:

บทความที่ได้รับความนิยม