การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดประชุมสรุปผลการดำเนินงานโครงการประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืนของยางธรรมชาติในประเทศไทย
ร่วมกับผู้บริหารจากบริษัท มิชลิน บริษัท คอนทิเน็นทัล RUBBERWAY PTE LTD. และผู้บริหารจาก กยท. ทั่วประเทศ ณ ห้องประชุมรัษฎาการยางแห่งประเทศไทย
พร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรชาวสวนยางทำสวนยางพาราอย่างยั่งยืนสร้างมาตรฐานการผลิตสู่ระดับโลกภายใต้การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท
ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าการประชุมในวันนี้เป็นการสรุปผลการประเมินความเสี่ยงด้านความยั่งยืนของยางธรรมชาติในประเทศไทย
จากการสอบถามข้อมูลเกษตรกรชาวสวนยาง (ประเภทเจ้าของสวน)
ที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้น 155,347 ราย
โดยการประเมินแบ่งออกเป็น 4 ด้าน คือ
- 1) การให้ความเคารพต่อบุคคลในเรื่องการจ้างงาน
ค่าจ้าง แรงงาน ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย รวมถึงระบบการร้องเรียน
- 2) การดูแลสิ่งแวดล้อมระบบนิเวศและการรักษาป่าและการครอบครองที่ดิน
- 3) การอบรมด้านการเกษตร
- 4) ความโปร่งใสในการค้า
จากการประเมินพบว่า
ประเทศไทยมีความเสี่ยงอยู่ในระดับต่ำทั้ง 4 ด้าน ถือเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนายางพาราสู่ความยั่งยืน
ลดความเสี่ยงเรื่องผลผลิต รวมถึงการปรับปรุงการทำงานของเกษตรกรรายย่อยในประเทศไทยให้ผลิตยางตามแนวทางที่เหมาะสมควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
สร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของระบบการจัดการสวนยาง พร้อมเปิดโอกาสการแข่งขันทางการค้าและการลงทุนในเวทีระดับโลก
กยท. ยังคงเดินหน้าสร้างความรู้ความเข้าใจ
และเพิ่มความเข้มข้นในการสื่อสารผ่านกระบวนการอบรม
และการประชาสัมพันธ์อยู่เสมอ รักษาห่วงโซ่อุปทานด้านยางพาราให้มีมาตรฐาน ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อเกษตรกรชาวสวนยางในด้านการผลิตยางพาราให้มีคุณภาพตรงตามความต้องการของผู้ซื้อ
และช่วยพัฒนาให้เกษตรกรชาวสวนยางมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
พร้อมติดตามความเสี่ยงในแต่ละภูมิภาคอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการเพิ่มระดับความเสี่ยงในอนาคต
นายณกรณ์กล่าวทิ้งท้าย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น