ปาล์มน้ำมัน

[ปาล์มน้ำมัน][bsummary]

ยางพารา

[ยางพารา][bsummary]

เทคนิคจากสวน

[เทคนิคจากสวน][twocolumns]

NEWS

[News][bleft]

ปุ๋ยไนโตรเจนสำหรับปาล์มน้ำมัน ใช้ 46-0-0 หรือ 21-0-0 ตัวไหนดีกว่ากัน

เกษตรกรสวนปาล์มน้ำมันจำนวนมาก นิยมเลือกให้ปุ๋ย โดยใช้ “แม่ปุ๋ย” แทนการใช้ปุ๋ยสูตรสำเร็จ แม้จะยุ่งยากเล็กน้อย เพราะต้องใส่แม่ปุ๋ยทีละตัว แต่ก็มีข้อดีตรงที่สามารถเลือกปรับเพิ่มหรือลดปริมาณธาตุอาหารบางตัวเพื่อให้ตรงตามความต้องการของปาล์มน้ำมันได้ง่ายและสะดวก

 

แต่เนื่องจากธาตุอาหารบางตัว มีแม่ปุ๋ยให้เลือกมากกว่า 1 ชนิด จึงมักเกิดคำถามว่า สำหรับปาล์มน้ำมันแล้ว ควรเลือกใช้ชนิดไหนดี หนึ่งในนั้นคือ ไนโตรเจน (N) ซึ่งแม่ปุ๋ย 2 ชนิด ที่คุ้นเคย คือ 46-0-0 (ยูเรีย) และ 21-0-0 (แอมโมเนียมซัลเฟต)


👉 ความเหมือนและแตกต่าง ของ ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 และ 21-0-0

แม่ปุ๋ยทั้ง 2 ชนิด ล้วนให้ธาตุอาหารไนโตรเจนเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ค่าความเข้มข้น ซึ่ง ปุ๋ยยูเรียจะมีธาตุมากถึง 46% ขณะที่ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต มีเพียง 21% เท่านั้น ต่างกันมากกว่า 2 เท่าตัว

 

แต่ด้วยกระบวนการผลิตที่ต่างกันจึงทำให้ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต มีซัลเฟอร์ (S) หรือ กำมะถัน ผสมอยู่ถึง 24% ธาตุอาหารรองตัวนี้ส่งเสริมการสร้างคลอโรฟิลล์ช่วยในการสังเคราะห์แสงและสังเคราะห์โปรตีน ซึ่งสำคัญต่อการเจริญเติบโตและกระบวนการสร้างน้ำมัน ขณะที่ยูเรียให้ไนโตรเจนเพียงอย่างเดียว

ขณะเดียวกันปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต ที่มีลักษณะเป็นผลึกคล้ายน้ำตาลทรายจึงละลายน้ำได้ค่อนข้างดี และปลดปล่อยธาตุอาหารอย่างต่อเนื่อง ส่วนปุ๋ยยูเรียจะปลดปล่อยธาตุได้เร็ว แต่ด้วยตัวปุ๋ยที่เป็นเม็ดโฟม เมื่อหว่านลงดินมีโอกาสสูญเสียง่าย โดยเฉพาะสามารถระเหิดในอากาศได้ จึงไม่เหมาะกับดินทรายที่กักเก็บธาตุได้น้อย ขณะที่ปาล์มน้ำมันต้องการธาตุอาหารอย่างต่อเนื่อง ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟตจึงได้รับคำแนะนำสำหรับปาล์มน้ำมัน

 

แต่อย่างไรก็ตาม การใช้ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟตกับปาล์มน้ำมันก็มีข้อควรระมัดระวัง โดย รศ.ดร.สุมิตรา ภู่วโรดม ผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุอาหารพืช บรรยายไว้ในหลายเวทีว่า ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟตจะมีผลตกค้างในดินเป็นกรดสูงมาก ในกรณีสวนปาล์มมีดินเป็นกรดสูงอยู่แล้วหากใส่แอมโมเนียมซัลเฟตอย่างเดียวจะไปเพิ่มความเป็นกรดมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตโดยรวมของปาล์มน้ำมัน จึงจำเป็นต้องปรับสภาพดินด้วยปูนโดโลไมท์อย่างต่อเนื่อง หรือสลับมาใช้ปุ๋ยยูเรียในบางปี แม้จะมีผลทำให้ดินเป็นกรดเช่นกัน แต่ด้วยปริมาณที่ใส่น้อยกว่า จึงไม่เพิ่มความเป็นกรดของดินมากเท่ากับแอมโมเนียมซัลเฟต

 

แต่ต้องคำนึงว่าปุ๋ยยูเรียมีความเข้มข้นของไนโตรเจนมากกว่าแอมโมเนียมซัลเฟต ปริมาณที่จะใส่ต้องลดลง มิฉะนั้นจะทำให้พืชของเราได้รับไนโตเจนมากเกินไป

 

อย่างไรก็ตามข้อดีของปุ๋ยยูเรีย คือ มีไนโตรเจนเข้มข้น กว่าปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต จึงใช้ปริมาณน้อยกว่า อย่างเช่นถ้าต้องการให้ธาตุไนโตรเจนอย่างเดียวกับปาล์ม 2 กก.(ธาตุ) จะใช้ยูเรียแค่ 4.3 กก. แต่ถ้าต้องใช้แอมโมเนียมซัลเฟต มากถึง 9.5 กก. 

ถ้าราคาปุ๋ยยูเรีย กก.ละ 29.8 บาท/กก. จะเท่ากับค่าปุ๋ย 128.1 บาท ขณะที่แอมโมเนียมซัลเฟต กก.ละ 17 บาท ราคาปุ๋ย 161.5 บาท  (เช็กราคาปุ๋ยจากหน้าเว็บเดือน พ.ย. 2565) ดังนั้นที่เคยได้ยินได้ฟังว่า ใช้ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต ราคาถูกกว่า 46-0-0 อาจจะไม่ใช้ข้อเท็จจริง


โดยสรุปการให้ธาตุไนโตรเจนกับปาล์มน้ำมัน ปุ๋ย 21-0-0 มีความเหมาะสมมากกว่า เพราะมีทั้งธาตุไนโตรเจน และซัลเฟอร์  ขณะเดียวกันปุ๋ย 46-0-0 ก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน แต่ใช้เมื่อต้องการให้ต้นปาล์มได้รับธาตุไนโตเจนเร็ว อย่าง ช่วงที่มีอาการขาดธาตุไนโตรเจนรุนแรง หรือ พื้นที่ลุ่มที่มีฤดูกาลน้ำท่วมขังเป็นประจำ เป็นต้น

อ้างอิง

http://www.ppsf.doae.go.th/publication/soil_fer/048-069.pdf

http://www.cpiagrotech.com/knowledge-066/

https://puimongkut.com/en/site/farmerguide/detail/245l

https://youtu.be/nDxu_goAqrU

https://youtu.be/Rs_imeZ8sb4

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

บทความที่ได้รับความนิยม