พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญในการสร้างเสถียรภาพราคายาง
โดยมีการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ร่วมกับ 5 บริษัทผู้ผลิตและส่งออกยางรายใหญ่ของไทย
ประกอบด้วย
บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด
(มหาชน)
บริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด
บริษัท เซาท์แลนด์ รับเบอร์ จำกัด
บริษัท ไทยฮั้วยางพารา จำกัด
(มหาชน)
และ บริษัท
ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น ประเทศไทย จำกัด (มหาชน)
“การร่วมมือกันสร้างเสถียรภาพราคายางระหว่าง
กยท. และภาคเอกชนในครั้งนี้ถือเป็นนวัตกรรมการบริหารจัดการ
และเป็นนิมิตหมายที่ดี ต้องขอบคุณ ผู้ประกอบกิจการยางทั้ง 5 บริษัท
ที่เข้ามาร่วมลงทุนจัดตั้งกองทุนฯ หากมีการเข้าซื้อยางในตลาดจำนวนมากจะส่งผลดีต่อราคายาง
และเป็นการปฏิบัติที่ชัดเจนภายใต้การร่วมมือกันของทุกภาคส่วน” รมว.กษ.
กล่าว
ดร.ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการ กยท. กล่าวว่า กยท.
และบริษัทผู้ส่งออกยางรายใหญ่ทั้ง 5 ราย
มีความเห็นร่วมกันว่า สถานการณ์ราคายางที่เกิดขึ้น จะต้องมีการแก้ไขและสร้างเสถียรภาพร่วมกัน
จึงได้มีการร่วมกันจัดตั้งกองทุนเพื่อรักษาระดับราคาและผลักดันราคาให้อยู่ในระดับสมดุลอีกครั้ง
โดยมีเงินทุนเริ่มต้นร่วมกัน 1,200 ล้านบาท
ในการใช้ซื้อยางทั้งในตลาดซื้อขายจริงและตลาดซื้อขายล่วงหน้า
ในหลักการแล้วหากใช้ในตลาดล่วงหน้า สามารถขยายผลได้ถึง 10 เท่า จากเงิน 1,200 ล้านบาท จะขยายผลได้ถึง 12,000
ล้านบาท และซื้อยางได้ประมาณ 200,000 ตัน
ถือเป็นมาตรการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ผลักดันให้เป็นรูปธรรมได้มากยิ่งขึ้น
ซึ่งจะช่วยให้ราคายางกลับสู่ดุลยภาพได้เร็วขึ้น
Advertising
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น